ศิลปะสุดโต่ง ศิลปินเบลเยียมสักลายบนตัวหมู ก่อนถลกหนังขายเป็นของสะสม

ศิลปะสุดโต่ง ศิลปินเบลเยียมสักลายบนตัวหมู ก่อนถลกหนังขายเป็นของสะสม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ifitshipitshere

          ศิลปินเบลเยียมสร้างงานศิลปะแบบสุดโต่ง เปิดฟาร์มหมูในจีน เลี้ยงเพื่อเอามาสัก แล้วเอาแต่หนังไปขายเป็นงานศิลปะ หนึ่งชิ้นได้ราคาถึง 5 ล้าน 

          งานศิลปะที่สุดหลุดโลกด้วยการนำหมูเป็น ๆ มาสัก แล้วถลกหนังขายนี้ เป็นผลงานของ นายวิม เดลวอย (Wim Delvoye) ศิลปินชาวเบลเยียมวัย 48 ปี ซึ่งได้มาเปิดฟาร์มหมูที่หมู่บ้านเชียวเตี้ยน ในเขตซุนอี้ของกรุงปักกิ่ง ตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เพื่อเลี้ยงหมูไว้สักสำหรับเอาหนังขายโดยเฉพาะ 

          หมูแต่ละตัวจะเริ่มถูกนำไปสู่กระบวนการสักครั้งละ 2 ชั่วโมง นับแต่อายุ 2-3 เดือน มันจะถูกวางยาสลบ โกนขนจนเกลี้ยง ทาปิโตรเลียมเจลที่ผิว แล้วจึงลงมือสักเป็นลวดลายต่าง ๆ มีตั้งแต่ลายศิลปะแบบจีนไปจนถึงลายตัวการ์ตูนดิสนีย์ แต่ละตัวจะถูกนำไปสักเพิ่มเติมทุก ๆ เดือน จนขนาดได้และและงานเสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นหนังของพวกมันก็จะถูกนำออกขาย ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ได้รับออเดอร์มาจากแกลลอรี่และนักสะสมผลงานศิลปะในต่างประเทศ ขายกันอยู่ที่ชิ้นละ 7 แสน-1 ล้านหยวน หรือประมาณ 3.5-5 ล้านบาท
  
          เว็บไซต์ ecns ของจีนเผยคำให้สัมภาษณ์นายเดลวอย ในรายงานวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ระบุว่า หมูพวกนี้เป็นสัตว์ชั้นต่ำ ไม่มีบุคลิก ไม่มีจิตวิญญาณ คุณค่าของมันก็เพื่อเป็นอาหารให้มนุษย์เท่านั้น แต่เมื่อพวกมันได้รับการสักเป็นลวดลายต่าง ๆ กันไป มันก็มีตัวตนขึ้นมา มันมีชื่อ มีจิตวิญญาณ และตอนนี้มันมีคุณค่าทั้งในแง่ของมูลค่าทางกายและมูลค่าทางเศรษฐกิจ 
          ผู้ที่ได้รับรู้ถึงความสุดโต่งการเลี้ยงหมูเพื่อขายรอยสัก บางส่วนชื่นชมมันว่างดงามในฐานะงานศิลปะ ในขณะที่อีกกลุ่มเห็นว่าสิ่งมีชีวิตไม่ควรต้องมาทนทรมานเช่นนี้ ทั้งนี้ จีนไม่มีกฎหมายควบคุมการกระทำดังกล่าวชัดเจนนัก